บทความ

สารพัดวิธีช่วยลด บ้านร้อน ในทาวเฮ้าส์ตึกแถว

วันนี้เราจึงมีวิธีดูปัจจัยต่างๆที่ทำให้น้ำรั่วจาก หลังคาบ้าน และวิธีแก้ไขปัญหาหลังคารั่วเบื้องต้นมาฝากดังนี้

1.กระเบื้องหลังคา บ้านรั่ว เป็นรูใหญ่

สาเหตุของ กระเบื้องหลังคา บ้านรั่ว เป็นรูใหญ่ส่วนมากมักเกิดขึ้นจากขั้นตอนการติดตั้งที่ผิดพลาด ไม่ได้คุณภาพ อาทิ ช่างเหยียบโดนกระเบื้องแตก , การขันสกรูแน่นเกินไปจนกระเบื้องร้าว  กระเบื้องหลังคาบ้านซ้อนกันไม่สนิท และ การที่ กระเบื้องหลังคา ถูกกระแทกจากสิ่งต่างๆ

วิธีแก้ไข ให้เจ้าของบ้านนำ กระเบื้องมุงหลังคา ที่แตกร้าวออกเปลี่ยนแผ่นใหม่ โดยต้องยึดติดตั้งกระเบื้องให้แน่นด้วยสกรู แหนบ หรือตะขอยึด แนะนำให้จ้างช่างที่เชี่ยวชาญในการมุงกระเบื้อง เพื่อขจัดปัญหา การเรียงกระเบื้องไม่ตรงหรือไม่สนิท

2. หลังคาบ้านรั่วเป็นจุดๆ

การที่หลังคาบ้านรั่วเป็นจุดๆ แม้จะไม่ใช่ปัญหาร้ายแรงมาก แต่ก็ไม่ควรปล่อยไว้นาน เพราะรูดังกล่าวจะค่อยๆขยายตัวขึ้น ไม่ว่าจะเป็น หลังคาแบบกระเบื้อง หรือ หลังคาเมทัลชีท ก็สามารถมีรอยผุเป็นสาเหตุของหลังคารั่วได้

วิธีแก้ไข ใช้ซิลิโคนหรือกาว หาซื้อได้ตามร้านวัสดุก่อสร้างทั่วไป วิธีนี้เจ้าของบ้านสามารถทำได้ด้วยตัวเอง หากมีความชำนาญในการขึ้นไปทำงานบนที่สูงและมีอุปกรณ์ในการปีนขึ้นหลังคา

     บริเวณระเบียงบ้านน่าจะอยู่ที่การเลือก แผ่นไม้ปูพื้น ว่าจะเลือกใช้ไม้แบบไหนดี เพราะไม้แต่ละประเภทล้วนมีคุณสมบัติ มีข้อเด่น ข้อด้อย ที่แตกต่างกันไป การเลือกใช้งานให้เหมาะสมสไตล์ของบ้านและงบประมาณของเจ้าของบ้านจึงเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด วันนี้เรามี ไม้ปูพื้น ที่เหมาะกับการปูพื้นระเบียงมาแนะนำกันดังนี้

1.ไม้สังเคราะห์

ไม้สังเคราะห์ หรือ ไม้เทียม เป็นวัสดุทดแทนไม้จริง สามารถนำมาใช้ในส่วนต่างๆของบ้าน โดยเฉพาะการปูพื้นระเบียงบ้าน เนื่องจากทนน้ำและความชื้นได้ดี จึงง่ายต่อการดูแลรักษา รวมถึงยังมีข้อดีคือราคาประหยัด แถมยังช่วยในเรื่องของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ลดการตัดไม้ทำลายป่า โดย ไม้สังเคราะห์ตราเพชร มีรูปแบบที่สวยงามเป็นธรรมชาติ คุณภาพสูง ใช้งานตกแต่งหรือนำมาทำเป็น ไม้พื้น ได้เหมือนไม้จริง ติดตั้งง่าย สามารถตอบสนองการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ มีสีธรรมชาติให้เลือกหลากหลายตามความต้องการของคุณ

2.บอร์ดพื้น

ผลิตภัณฑ์ไดมอนด์บอร์ด ได้พัฒนาด้วยสูตรปราศจากใยหิน เพื่อตอบสนองความต้องการของการออกแบบตกแต่งสมัยใหม่ เอื้อต่อการประยุกต์ใช้ร่วมกับส่วนต่างๆ ของอาคาร ทั้งภายในและภายนอก อายุการใช้งานนาน ทนแดด ทนฝน เนื้อเหนียวแน่น ไม่เปื่อยยุ่ย ปลอดภัยจากการกัดกินของปลวก มอด ไม่แตกร้าวจากการยืด หดตัว เหมาะกับการประยุกต์ ใช้งานตกแต่งได้หลากหลายรูปแบบ ตามความต้องการ สามารถปูทับด้วยกระเบื้องปูพื้น หรือวัสดุปิดผิวอื่นๆ ได้อีกด้วย

1. ใช้งานห้องครัวเสร็จต้องรีบทำความสะอาด อีกหนึ่งวิธีสุดง่ายและง่ายสุดนั่นก็คือ เมื่อเราใช้งานภายในห้องครัวเสร็จต้องรีบเช็ดล้างทำความสะอาด ไม่ปล่อยให้มีคราบหรือเศษขยะมักหมน รวมไปถึงจานชามก็ต้องล้างในทันทีด้วย เตา เคาน์เตอร์ เช็ดให้สะอาด ยิ่งหากมีคราบน้ำมันกระเด็นอย่าปล่อยไว้นาน ให้ใช้น้ำส้มสายชูผสมน้ำยาน้ำความสะอาดและน้ำอุ่น จากนั้นใช้ผ้าเช็ดออกได้เลย หากเราดูและเป็นประจำแบบนี้ ช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์

2. ทำความสะอาดพัดลมดูดควัน สำหรับพัดลมดูดควันแล้วเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ในห้องครัวที่เราไม่ควรมองข้าม อาจจะไม่ได้ทำความสะอาดเป็นประจำ ทำให้มีคราบสกปรก รวมไปถึงคราบน้ำมันกระเด็น ฝุ่นละออง ทางแก้ก็คือถอดออกมาทำความสะอาดค่ะ ผึ่งใบพัดให้แห้งสนิท นำมาติดตั้งเหมือนเดิม เท่านี้ก็ช่วยให้บรรยากาศภายในห้องครัวรู้สึกดีขึ้น

3. ฮู้ดต้องมีขาดไม่ได้ ลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ด้วยอุปกรณ์ช่วยดับกลิ่นอย่างฮู้ด ควรเปิดฮู้ดเอาไว้ทุกครั้งระหว่างทำอาหาร นอกจากนี้หลังจากไม่ได้ใช้งานแล้ว อย่าลืมทำความสะอาดแผ่นกรอง เท่านี้ก็ช่วยลดกลิ่นอับได้ 

4.  เพิ่มช่องระบายอากาศ ห้องครัวไทยในสมัยก่อนนั้นมักสร้างอยู่นอกตัวบ้าน นอกจากมีพื้นที่กว้างขวางแล้ว ยังโปร่งสบาย ไม่เหม็นอับ ไอเดียนี้หยิบนำเอาความเป็นอยู่ของคนสมัยก่อนเข้ามาใช้ โดยออกแบบให้มีช่องหน้าต่างด้านใดด้านหนึ่งของห้องครัว เพื่อช่วยระบายกลิ่นของอาหารได้เป็นอย่างดี

5.  ผักสวนครัวช่วยกำจัดกลิ่น หัวหอมพืชผักสวนครัวที่ช่วยให้เราคลายหวัดโล่งจมูกในช่วงที่ไม่สบายแล้ว ยังสามารถนำมาช่วยดูดกลิ่นภายในห้องครัวได้อีก เพียงผ่าหัวหอมออกเป็นสี่ส่วนและวางไว้กลางห้อง ก็ช่วยบรรเทากลิ่นได้

ห้องนั่งเล่นที่ดีควรจะมีแสงธรรมชาติเข้ามาในห้องด้วยซึ่งวิธีการที่จะทำให้แสงธรรมชาติเข้ามาในห้องได้ ก็คือ เราต้องมีช่องเปิดให้แสงเข้ามา ซึ่งหลักๆ จะมีอยู่ 2 รูปแบบ คือ

1.แบบช่องแสงแนวตั้ง หรือพูดง่ายๆก็คือ ประตูกระจก หน้าต่าง หรือบานกระจกใส แบบบ้านหรือคอนโดทั่วๆไป ข้อดีของช่องแสงแบบนี้คือ ดูแล ทำความสะอาดง่าย แต่ข้อเสียคือแสงอาจจะเข้ามาได้แค่บางส่วนของห้องเท่านั้น

2. แบบช่องแสงบนฝ้าเพดาน หรือเรียกว่า Skylight แบบนี้เหมาะกับห้องที่อยู่ชั้น 2 หรือห้องที่ต่อเติมให้ยื่นออกมาจากตัวบ้าน ข้อดีของ Skylight คือ เราจะได้รับแสงธรรมชาติเต็มๆ ห้องจะดูสว่างกว่าแบบแรกแต่ข้อเสียคือ การดูแลทำความสะอาดจะค่อนข้างยากกว่าช่องแสงแบบแรก ซึ่งถ้าใครสนใจจะทำช่องแสงแบบนี้ ต้องวางแผนตั้งแต่เริ่มว่า เราจะขึ้นไปทำความสะอาดได้ยังไง